Category: ข่าววิชาการและการวิจัย

ท้องถิ่นวิจัยนวัตกรรม

    วันที่ 14 – 15 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ศูนย์สร้างสรรค์เมืองเพื่ออนาคต (Urban Inclu-Creative Clouds: UIC) วิทยาลัยพัฒนามหานคร มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ได้จัดกิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ “ชุดโครงการวิจัยสนับสนุนท้องถิ่นวิจัยนวัตกรรม พร้อมสังเคราะห์บทเรียนและข้อเสนอเชิงนโยบาย” ณ โรงแรมเดอะรอยัล ริเวอร์ เขตบางพลัด กรุงเทพฯ ซึ่งได้รับสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.)

     กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจร่วมกันระหว่างภาคีเครือข่ายในการเข้าร่วมชุดโครงการวิจัยเพื่อสร้าง “ท้องถิ่นวิจัยนวัตกรรม” แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จำนวน 21 แห่งที่เข้าร่วมชุดโครงการวิจัย โดยได้รับความอนุเคราะห์จาก รศ.ดร.วีระศักดิ์ เครือเทพ (ผู้อำนวยการฝ่ายยกระดับขีดความสามารถในการจัดการภาครัฐและท้องถิ่น บพท.) กล่าวเปิดงานและกล่าวถึงทิศทางนโยบายการให้ทุนวิจัย ศ.กิตติคุณ ดร.จรัส สุวรรณมาลา (ผู้เชี่ยวชาญด้านการกระจายอำนาจและนวัตกรรมท้องถิ่น) กล่าวถึงหลักการและแนวคิด “ห้องปฏิบัติการนวัตกรรมท้องถิ่น” ซึ่งต้องเป็นการขับเคลื่อนจากภายใน อปท. โดยมีนักวิจัยทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้ความช่วยเหลือและผลักดันให้เกิดนวัตกรรมท้องถิ่นขึ้นด้วยตัว อปท. เอง และเปิดตัวทีมผู้เชี่ยวชาญ (ทีมนักวิจัยภาคสนาม) ที่จะทำหน้าที่เป็น Coach ให้กับ อปท. ในการดำเนินโครงการวิจัยย่อยให้สำเร็จ และท้ายสุดคือการชี้แจงวิธีปฏิบัติต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับชุดโครงการวิจัยโดยทีมนักวิจัยกลาง

     กิจกรรมนี้ถือเป็นการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างทีมนักวิจัยกลาง ทีมนักวิจัยภาคสนาม ทีมนวัตกรท้องถิ่น (บุคลากรของ อปท.) ดังคำกล่าวโดย ศ.กิตติคุณ ดร.จรัส ไว้ว่า “การวิจัยครั้งนี้คือการทดลองเพื่อก้าวกระโดดครั้งใหญ่ด้านนวัตกรรมท้องถิ่นไทย” เพราะเราคาดหวังเสมอว่าในการขับเคลื่อนนวัตกรรมท้องถิ่นไทยให้เกิดขึ้นได้และยั่งยืนนั้น เราจะต้องทำให้ “ท้องถิ่นมีใจที่เข้มแข็งและกล้าที่จะลุกขึ้นมาทำ”

รุ่นแรกเริ่มแล้ว! หลักสูตร RESTT ติดกลยุทธ์ เสริมเทคนิค ยกระดับการจัดเก็บรายได้ท้องถิ่น

     วันที่ 24 กรกฎาคม 2566 วิทยาลัยพัฒนามหานคร โดยศูนย์สร้างสรรค์เมืองเพื่ออนาคต ภายใต้การสนับสนุนของหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปิดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ “เทคนิควิธีเชิงกลยุทธ์ในการพัฒนาการจัดเก็บรายได้ท้องถิ่น” รุ่นที่ 1 ณ โรงแรมเซ็นทารา ริเวอร์ไซด์ จังหวัดเชียงใหม่ โดย รศ.ดร.วีระศักดิ์ เครือเทพ ผู้อำนวยการฝ่ายท้องถิ่น บพท. และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.แสน กีรตินวนันท์ รองผู้อำนวยการวิทยาลัยพัฒนามหานคร กล่าวต้อนรับและเปิดการฝึกอบรม

       โดยผู้เข้าอบรมในรุ่นนี้ ประกอบด้วยผู้บริหารท้องถิ่น ประธานสภาท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น ปลัดและรองปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ข้าราชการและพนักงานส่วนท้องถิ่นที่รับผิดชอบหรือที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บรายได้ท้องถิ่น

     ในวันแรกของการฝึกอบรม ผู้เข้าอบรมได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ในประเด็นต่าง ๆ จากวิทยากร และ Workshop ในเรื่องต่าง ๆ เช่น
     – หลักคิดและเทคนิคการพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดเก็บรายได้ท้องถิ่น
     – เทคนิคสำรวจ เทคโนโลยีสารสนเทศ
     – การดึงข้อมูล (Scraping) เพื่อปรับปรุงฐานข้อมูลภาษีท้องถิ่น
     – ระบบอำนวยความสะดวกในการชำระภาษี
      นอกจากนี้ คณาจารย์จากศูนย์สร้างสรรค์เมืองเพื่ออนาคตได้จัดกระบวนการเพื่อสร้างบรรยากาศการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมตลอดการฝึกอบรม

        “หลักสูตรฝึกอบรมเทคนิควิธีเชิงกลยุทธ์ในการพัฒนาการจัดเก็บรายได้ท้องถิ่น” (Revenue Enhancement Strategical Techniques Training: RESTT) เป็นหลักสูตรฝึกอบรมมิติใหม่ของการพัฒนากระบวนการจัดเก็บรายได้ ที่ศูนย์สร้างสรรค์เมืองเพื่ออนาคต และ บพท. ออกแบบขึ้นเพื่อให้ตรงกับความต้องการของท้องถิ่น ส่งเสริมให้บุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสร้างไอเดียใหม่ ๆ เพื่อยกระดับในการจัดเก็บรายได้ท้องถิ่น พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพในการพัฒนารายได้ท้องถิ่นให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น และภายในหลักสูตรยังจัดให้มีการแข่งขันการนำเสนอผลงานแผนการพัฒนารายได้ท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นชิงเงินรางวัลรวมกว่า 45,000 บาท

     หลักสูตร RESTT ยังเปิดรับสมัคร อปท. ที่สนใจเข้าร่วมในรุ่นที่ 2 (สุราษฎร์ธานี) และ 3 (กรุงเทพมหานคร) โดยไม่มีค่าธรรมเนียมการฝึกอบรม สามารถติดตามรายละเอียดกิจกรรมและความเคลื่อนไหว “RESTT ยกระดับการจัดเก็บรายได้ท้องถิ่น” และกิจกรรมวิชาการของหลักสูตร ได้ที่
💻 Website: https://imd.nmu.ac.th/uic-th/

Facebook : Institute of Metropolitan Development, Navamindradhiraj University
#วิทยาลัยพัฒนามหานคร #IMD  #NMU #มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช 

กิจกรรมเวทีอบรมเชิงปฏิบัติการแนวคิดสู่การปฏิบัติการขับเคลื่อนชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวเพื่อเสริมสร้างสุขภาวะอย่างยั่งยืนชุมชนบางพลัด

กิจกรรมเวทีอบรมเชิงปฏิบัติการแนวคิดสู่การปฏิบัติการขับเคลื่อนชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวเพื่อเสริมสร้างสุขภาวะอย่างยั่งยืนชุมชนบางพลัด

เมื่อวันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน 2564 เวลา 08.30 -16.30 น.
ณ ห้อง 503 อาคารนวมินทร์ 1 วิทยาลัยพัฒนามหานคร มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
 
จากการจัดกิจกรรมเวทีอบรมเชิงปฏิบัติการแนวคิดสู่การปฏิบัติการขับเคลื่อนชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวเพื่อเสริมสร้างสุขภาวะอย่างยั่งยืนชุมชนบางพลัด มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจากตัวแทนชุมชน 4 ชุมชน ได้แก่
1. ชุมชนวัดคฤหบดี
2. ชุมชนจรัญ ฯ 66/1
3. ชุมชนวัดเทพากร
4. ชุมชนจรัญ ฯ 72
โดยมีประเด็นการเรียนรู้ที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รับจากวิทยากร คุณวรรธนสกล รักปทุม (ผู้อำนวยการหน่วยพัฒนาอาชีพที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน จ.ปทุมธานี) ได้แก่
1. แนวคิดการปฏิบัติการขับเคลื่อนชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวเพื่อเสริมสร้างสุขภาวะอย่างยั่งยืน ชุมชนบางพลัด
2. การวิเคราะห์ต้นทุนชุมชนเพื่อวางแผนการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวโดยชุมชนบางพลัดซึ่งในช่วงท้ายของเวทีอบรมเชิงปฏิบัติการ ฯ มีการทำกิจกรรมของผู้เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งได้ร่วมกันระดมความคิดเพื่อเริ่มต้นชุมชนจัดการท่องเที่ยวโดย ดร.จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร (ที่ปรึกษาโครงการ)
 
ทั้งนี้ตัวแทนชุมชนได้นำเสนอข้อมูลพื้นฐานจากการระดมความคิด ภายในกลุ่มตัวแทนชุมชนเพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิดการจัดการท่องเที่ยว รวมถึงวิเคราะห์ต้นทุนเบื้องต้นเพื่อวางแผนการขับเคลื่อนประเด็นดังกล่าวต่อไปในอนาคต

กิจกรรมประชุมเสวนา แลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางสร้างสรรค์“ร่วมพลังขับเคลื่อนสุขภาวะเพื่อคนบางพลัด”

กิจกรรมประชุมเสวนา แลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางสร้างสรรค์“ร่วมพลังขับเคลื่อนสุขภาวะเพื่อคนบางพลัด”

          จัดขึ้นใน วันที่ 4 พฤศจิกายน  2564  Onsite กลุ่มเป้าหมายที่เสวนา ได้แก่ ตัวแทนชุมชนและเครือข่าย,ภาคราชการ, ทีมงานใช้รูปแบบการประชุมแบบการเรียนรู้ออนไลน์แบบโต้ตอบกันได้ (online interaction) แบบ Hybrid Learning มีกลุ่มเป้าหมายที่สามารถมาประชุมแบบ Onsite ได้ (ตามจำนวนที่ ศบค.กำหนด) และ มีกลุ่มที่ Online มาจากสถานที่ตั้ง ใช้เวลาในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ จำนวน 3 ชั่วโมง (เวลา 09.00 – 12.00 น.)

          กระบวนการภาพรวม เริ่มต้นมีการบรรยายพิเศษจาก จาก ดร.วิสุทธิ บุญโสภิต  อดีตรองผู้อำนวยการ สปสช. เขต 3 ประธานสมัชชาสุขภาพจังหวัดนครสวรรค์ เป็น Session ที่ทำให้ผู้เข้าร่วมทุกคนได้เรียนรู้ การก้าวย่างของ “สุขภาวะ” ผ่านประเด็น “คนบางพลัดจะขับเคลื่อนสุขภาวะอย่างไร? ในยุค NEXT NORMAL” ดร.วิสุทธิ ได้ให้นิยามของสุขภาพ และ เชื่อมโยงให้เห็นภาพ สุขภาวะ ที่ง่ายและสามารถนำไปสู่รูปธรรมผ่านการปฏิบัติได้ในพื้นที่ โดยมีเงื่อนไขของการเปลี่ยนแปลงของสังคม วัฒนธรรม และ โดยเฉพาะ Post Covid ที่เรากำลังเผชิญ

          รศ.ดร. นันทสารี สุขโต  หัวหน้าโครงการวิจัย ได้สื่อสารเพื่อให้ทุกคนในเวทีฯ ได้ เห็นภาพรวมของการดำเนินงานโครงการ และข้อค้นพบที่สำคัญ นำไปสู่ โจทย์สำคัญสำหรับเวทีครั้งนี้คือ “เราจะร่วมมือแบบบูรณาการกันเพื่อขับเคลื่อนสุขภาวะของคนบางพลัดอย่างไร?” ซึ่งเป็นคำตอบที่ทุกคน(คนบางพลัด) ต้องตอบคำถามนี้ด้วยตัวเอง

          กิจกรรมเสวนา “การขับเคลื่อนสุขภาวะชุมชน คนบางพลัด”และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ที่จะนำไปสู่การค้นหาคำตอบจากโจทย์ที่ทางโครงการวิจัยฯ และ คนบางพลัดต้องการ ประกอบไปด้วย ผู้แทนจากภาครัฐ (เขตบางพลัด) ผู้แทนจากภาคประชาสังคม (ผู้นำชุมชน,ผู้แทนกลุ่มเครือข่าย) และ บุคลากรทางด้านสุขภาพ ทั้งหมดเป็นผู้ร่วมเสวนาที่จะมาร่วมกันเติมเต็มและค้นหาคำตอบ โดยมี ดร. จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร เป็นผู้นำการเสวนาใน Session ดังกล่าว

          สรุปผลการจัดเวทีกิจกรรมประชุมเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางสร้างสรรค์ “ร่วมพลังขับเคลื่อนสุขภาวะเพื่อคนบางพลัด” มีผู้เข้าร่วมกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ดังกล่าว จำนวน 150 คน (Onsite + Online) ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นประเมินจากจำนวนผู้เข้าร่วมเวทีสอดคล้องตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และกระบวนการเรียนรู้ในแต่ละ Session มีการนำเสนอ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันอย่างสนุกสนาน ร่วมกันตอบโจทย์ที่เป็นวัตถุประสงค์หลักในการจัดเวทีเสวนาในครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี ในช่วงท้ายสุดของงานเสวนาในครั้งนี้ได้ข้อมูล และข้อคิดเห็นที่จำเป็นสำหรับการวางแผนการดำเนินงานของโครงการ ฯ ต่อไป

บทเรียนการปรับตัวของ “เมือง” จากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19

บทเรียนการปรับตัวของ “เมือง” จากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19

(Urban Resilience for COVID-19 Pandemic Lesson Learn)

ศาสตราจารย์ธเรศ ศรีสถิตย์

ผู้อำนวยการวิทยาลัยพัฒนามหานคร

การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือที่เรียกว่า COVID-19 เริ่มระบาดที่เมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีนในปลายปี พ.ศ. 2562 และเริ่มระบาดในประเทศไทยในต้นปี พ.ศ. 2563 ต่อมาได้แพร่กระจายออกไปทั่วประเทศในการระบาดรอบที่ 3 ในช่วงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2564 ที่มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มจำนวนมากขึ้น การระบาดในครั้งล่าสุดสร้างความเสียหายให้กับประเทศอย่างมาก โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจและสั่นคลอนระบบการสาธารณสุขของประเทศอย่างมากที่ต้องพึ่งพาวัคซีนจากต่างประเทศ ขณะเดียวกันมาตรการการป้องกันโรคต่างๆ ของรัฐบาลส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้มีรายได้น้อยอย่างมาก โดยเฉพาะภาวะการจ้างงาน ทำให้ระบบการซื้อขายในตลาดลดลง ในขณะที่การต่อสู้กับเชื้อไวรัสยังคงต้องต่อสู้กันต่อไปตราบใดที่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศยังไม่ได้รับวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสชนิดนี้

กรุงเทพมหานคร เป็นแหล่งที่มีการระบาดสูง มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมากที่สุดในประเทศ ในขณะที่เมืองกำลังตั้งรับกับภัยพิบัติของเมือง (Urban Hazards) โดยเฉพาะการเสริมกำลังด้านการสาธารณสุขของเมือง อย่างไรก็ตาม การปรับตัวให้เมืองมีความยืดหยุ่น (Urban Resilience) เพื่อการรองรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นย่อมเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งประกอบประเด็นต่างๆ ดังนี้

  • ที่พักอาศัย (Housing) “เมือง” ต้องให้ความสนใจในการจัดหาที่พักอาศัยสำหรับกลุ่มประชาชนที่มีรายได้น้อย เพราะประชาชนเหล่านี้พักอาศัยกันอย่างหนาแน่นและมีขนาดพื้นที่จำกัด จนเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไปอย่างรวดเร็วรวมทั้งการเตรียมที่พักกักตัวสำหรับผู้ติดเชื้อเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในวงกว้าง
  • ลดความหนาแน่นของประชาชนในพื้นที่ต่างๆ (Reduce Over Crowded) โดยการลดจำนวนประชาชนในพื้นที่ต่างๆ
    ที่มีกิจกรรมร่วมกัน อาทิ ที่ทำงาน ชุมชน โรงเรียน สถาบันการศึกษา ตลาดสด การใช้บริการระบบขนส่งมวลชน เป็นต้น
  • ใช้พื้นที่เปิดโล่งให้มากขึ้น (Open Space Utilization) โดยการปรับพื้นที่เปิดโล่งในเมืองเพื่อรองรับการทำกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มของผู้คนจำนวนมาก อาทิ การค้าขาย การเดินทาง หรือนันทนาการ เป็นต้น
  • จัดสรรงบประมาณและกองทุน (Urban Financial Fund) ให้มีการจัดเตรียมงบประมาณเงินทุนจำนวนที่เพียงพอกับการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาด และเยียวยาประชาชนหลังได้จากการแพร่ระบาด อาทิ การจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ ยา วัคซีน เงินช่วยเหลือประชาชนที่ตกงานหรือขาดรายได้ในช่วงการแพร่ระบาด รวมทั้งเงินทุนช่วยเหลือกลุ่มธุรกิจที่ขาดสภาพคล่อง
  • แหล่งอาหาร (Food Supported) จัดหาแหล่งอาหารที่มั่นคงในการสนับสนุนให้กับเมือง เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะขาดแคลนอาหารของประชาชน
  • จัดหาพื้นที่เพาะปลูกพืชขนาดย่อม (Community Pocket Garden) เพื่อเป็นแหล่งอาหารขั้นต้นสำหรับคนในชุมชน อาทิ พืชผักสวนครัว หรือพืชอาหารอายุสั้น
  • การจัดเตรียมระบบสาธารณูปโภค (Urban Public Utilities) ได้แก่ น้ำสะอาด ไฟฟ้า พลังงาน การจัดการน้ำเสีย และขยะติดเชื้อ ที่มีความยืดหยุ่นในการให้บริการแก่ประชาชน
  • นำเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) เข้ามาใช้ในการจัดการติดต่อสื่อสารกำกับติดตาม ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งการใช้ข้อมูลทางสถิติต่างๆ ในการควบคุมโรคที่เกิดจากคลัสเตอร์ต่างๆ ในเขตเมือง
  • การให้ความรู้กับประชาชน (Education) ในการปฏิบัติตนขณะเกิดและหลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid – 19

(เรียบเรียงจาก The Future of Asian & Pacific Cities, Transformative Pathways Towards Sustainable Urban Development in the Post COVID-19 ERA, 2020, ESCAP) [02.06.2021]